Made หน้าใส

เมโสเทอราปี (Meso THerapy) คือวิธีการใช้เข็มฉีดยาสะกิดบนผิว ซึ่งจะทำให้ตัวยาสามารถลงไปลึกถึงชั้นผิว มากกว่าการทาครีมโดยทั่วทั่วไปโดยปกติจะนิยมใช้ตัวยาที่มีผล ต่อการสร้างอิลาสตินบนผิวทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดริ้วรอยบริเวณผิวหน้าได้ดีขึ้น มาเด้ (Made) คือการใช้ยาที่มีการกระตุ้นคอลลาเจนและวิตามินที่มีความสำคัญต่อผิว ซึ่งหลักการจะทำโดยการใช้เข็มฉีดยาจิ้มลงไปบริเวณจุดฝังเข็ม 16 จุดทั่วใบหน้า (Homeopathy) ทำให้มีการกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนังได้ดีขึ้น โดยสูตรยาของมาเด้ และคอลลาเจนจะช่วยกันออกฤทธิ์อย่างเป็นขบวนการ และเป็นจังหวะ ตัวยาแต่ละตัวจะออกฤทธิ์ส่งเสริมซึ่งกันและกันจึงทำให้ผลการบำบัดออกมาดี โดยหลักๆ แล้ว มาเด้ และ คอลลาเจน จะออกฤทธิ์เป็น 4 จังหวะ ดังนี้คือ Detoxification คือ การเร่งการขับสารพิษ และของเสียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยออกจาร่างกาย โดยการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ที่ทำหน้าที่ในการขับถ่าย อย่างเช่น ตับ ไต ลำไส้ และต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น ขบวนการนี้เป็นขบวนการท่ำจำเป็นอย่างมากต่อการบำบัดรักษาโรค เพราะถ้ามีสารพิษ และของเสียต่างๆ ตกค้างอยู่ในร่างกายมาก จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ และทำให้เกิดอาการของโรคต่างๆ ได้ง่าย เมื่อมีของเสียอยู่ข้างในมาก ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารใหม่ๆ เข้าไปหล่อเลี้ยงได้ เหมือนแก้วนำที่เต็มแล้วจะเติมน้ำอีกไม่ได้Metabolism คือ การเร่งการเผาผลาญพลังงาน และการไหลเวียนเลือด […]
อยากให้ไฝหายในครั้งเดียว ได้หรือไม่

ถ้าหากไฝมีขนาดใหญ่มากและคนไข้รีบ หรือไม่ค่อยมีเวลา ต้องการที่จะหายภายในครั้งเดียว ก็จะมีอีกวิธีนึงคือการผ่าตัด แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เช่น บริเวณที่เป็นไฝสามารถทำการผ่าตัดยากหรือง่าย ต้องคำนึงถึงความสวยงาม รวมทั้งหลังการผ่าตัดแผลจะมีลักษณะยาวขึ้นกว่าแผลเดิมและเป็นลักษณะรอยขีด ต่างจากแผลเลเซอร์ที่มักจะมีขนาดและรูปรางกลมตามลักษณะของไฝเดิม ดังนั้น จะเลือกวิธีไหนก็ตาม ขึ้นอยู่กับคนไข้ว่ามีเวลารักษามากน้อยแค่ไหน รับได้กับแผลแบบใด แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะทำการรักษาควรได้รับการตรวจโดยแพทย์ผิวหนังก่อนเพื่อให้แน่ใจว่า ไฝ ขี้แมลงวัน หรือรอยโรคนั้นๆ ไม่ได้เป็นก้อนเนื้อร้าย เช่น มะเร็งผิวหนัง และควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพราะหากผู้จี้ไฝมีความชำนาญไม่เพียงพอหรือเครื่องมือไม่ได้รับมาตรฐาน อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น หรือแผลติดเชื้อได้
การดูแลตัวเองหลังจี้ไฝ

หลังจากทำเลเซอร์จี้ไฝและขี้แมลงวันเสร็จแล้วควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
รู้จักกับ CO2 laser

ปัจจุบัน “เลเซอร์” เข้ามามีบทบาทในแวดวงความสวยความงามมากขึ้น โดยเฉพาะการรักษาผิวพรรณให้สวยงามเกลี้ยงเกลา สำหรับคนที่รักสวยรักงามแล้วปัญหา ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ หรือติ่งเนื้อนั้น ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ ทำให้ผิวดูไม่สวยงาม โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นที่ใบหน้า คอ และตัว จะบั่นทอนความมั่นใจอย่างยิ่ง สามารถแก้ไขได้โดยเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างเลเซอร์ก็คือ คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า CO2 Laser การรักษาไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ ในปัจจุบันค่อนข้างง่าย สะดวก ปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก และรวดเร็ว โดยการใช้แสงเลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ซึ่งการใช้แสงเลเซอร์ชนิดนี้มีความแม่นยำสูง สามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการยิ่งเลเซอร์ได้แบบเฉพาะเจาะจง ไม่มีเลือดออก มีเพียงสะเก็ดแผลบนผิว ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง ที่สำคัญต้องอยู่ภายใต้การรักษาจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพักฟื้นใดๆ และสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
การเตรียมตัวก่อนจี้ไฝ

ก่อนทำการจี้ไฝและขี้แมลงวันจะต้องให้แพทย์ผิวหนังประเมินก่อนว่าไฝและขี้แมลงวันบริเวณนั้นไม่ได้เป็นเนื้อร้าย หากประเมินแล้วสามารถจี้ไฝหรือขี้แมลงวันได้ ควรเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ ดังนี้ ขั้นตอนการจี้ไฝการจี้ไฝและขี้แมลงวัน ขณะยิงเลเซอร์จะไม่รู้สึกเจ็บและไม่มีการเสียเลือดใดๆ ใช้เวลาในการทำประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวน ขนาดของไฝและขี้แมลงวันที่ต้องการกำจัด โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวหน้า จากนั้นจะทายาชาบริเวณที่ทำเลเซอร์เพื่อบรรเทาอาการเจ็บระหว่างทำและรอจนกว่ายาชาจะออกฤทธิ์ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีหากเลเซอร์บริเวณใบหน้า แพทย์จะปิดตาเพื่อป้องกันแสงจากเลเซอร์ จากนั้นแพทย์จะยิงเลเซอร์บริเวณที่รักษาหลังยิงเลเซอร์แล้ว ผู้เข้ารับการเลเซอร์สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
ฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนดี ช่วยเสริมใบหน้า

ฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนดี?1. ขมับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยปรับให้รูปหน้าดูสวยงามได้สัดส่วนมากขึ้น ช่วยให้หน้ามีความอ่อนเยาว์มากขึ้น เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาขมับตอบ โหนกแก้มสูงมากจนเห็นได้ชัด เหมือนแก่กว่าวัย และนอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ขมับให้เติมนั้นเป็นการเสริมโหงวเฮ้งด้านความรัก รับทรัพย์และค้าขายร่ำรวย 2. ตาฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดจะเป็นฟิลเลอร์ใต้ตาค่ะ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องใต้ตาลึก ถุงไขมันใต้ตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเปลี่ยนใบหน้าที่ให้ดูสดชื่น สดใส ดูเด็กลงด้วยค่ะ 3. ปากใครที่มีปัญหาเวลาริมฝีปากบาง ปากแห้ง ปากไม่ได้รูป หรือเวลาทาลิปสติกแล้วตกร่อง จนขาดความมั่นใจ สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากให้ดูอวบอิ่มแบบสายฝอ. ได้ง่ายมากๆ แบบไม่ต้องผ่าตัดแถมใช้เวลาไม่นานด้วยค่ะ 4. ร่องแก้มฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย ซึ่งมักจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างกระดูกใบหน้าเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั่นจะช่วยเสริมความมั่นใจ ทำให้หน้าเด็ก อ่อนกว่าวัย 5. แก้มเหมาะสำหรับช่วยแก้ปัญหาของคนไข้ที่มีแก้มตอบ ซึ่งทำให้ดูซูบโทรม ดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์แก้ม จะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูอิ่ม สวย ยกกระชับ ช่วยพยุงให้ร่องแก้มดูตื้นด้วยค่ะ 6. คางเคยสังเกตมั้ยคะว่า ทำไมดารานักแสดง นางแบบ หรือ ผู้หญิงบางคน ใบหน้าดูเรียวสวยได้สัดส่วนและสมดุล ความลับความสวยนั่นอยู่ที่คางนั่นเอง เพราะคางที่ได้รูปและความยาวกำลังพอดีจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น หวานขึ้น และดูเด็กลงได้อีกด้วย ดังนั้นฟิลเลอร์คางจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาคางสั้น ไม่ได้รูป […]
ฟิลเลอร์คืออะไร? และ มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ เทคนิคการฉีดเติมเต็มผิวด้วยสารฮายารูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ เรียกสั้นๆว่า HA เป็นสารเติมเต็มที่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยทั่วโลก สารสกัดจากธรรมชาติที่มีองค์ประกอบของคอลลาเจนที่เราทุกคนจะมีอยู่แล้วในเซลล์ผิว มีความปลอดภัยสูง นำมาประกอบกันเป็นร่างแหด้วยวิธีการทางเคมี โดยคุณสมบัติของฟิลเลอร์นั้นจะเปรียบได้เสมือนกับเป็นสปริงของผิว ช่วยเสริมสร้างความเต่งตึง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ในกรณีที่ คนไข้ต้องการ การลดเรือนริ้วรอย ร่องลึก แก้ไขผิวที่หย่อนคล้อยที่เป็นไปตามวัยให้กลับมาตึงกระชับ ผิวเสมอกัน รวมถึงการปรับรูปหน้า สำหรับผู้ที่มีใบหน้าที่ไม่สมส่วนให้ดูดียิ่งขึ้น
หลังทำคีโมหรือเคมีบำบัดสามารถปลูกผมถาวรได้หรือไม่

หลังทำคีโมปลูกผมได้มั้ยปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ อาจฟังดูเล็กน้อยไปเลย เมื่อต้องเทียบกับภาวะผมร่วง ที่เกิดจากการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยการทำเคมีบำบัด หรือ “คีโม (Chemotherapy)” และด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้มีคนไข้หลายคน ที่กังวลใจจากการรักษาโรคร้ายนี้มาปรึกษาหมอกันพอสมควร วันนี้หมอนำคำตอบมาฝากครับ ทำไมทำคีโมแล้วผมร่วง?วัตถุประสงค์ของการทำคีโมนั้น คือการมุ่งทำลายเซลล์มะเร็งภายในร่างกาย ที่กำลังแบ่งตัวเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ว่าเซลล์ที่กำลังแบ่งตัวในร่างกายของเรานั้น มีเซลล์อื่นๆ รวมอยู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น เซลล์เม็ดเลือดในไขกระดูก เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร รวมไปถึงเซลล์บริเวณรูขุมขน และเส้นผม ส่งผลให้ผมร่วงอย่างที่พบเจอกันค่ะ ซึ่งอาการเหล่านี้ มักเป็นอาการชั่วคราว และจะกลับมาเป็นปกติ เมื่อทำการรักษาเสร็จครับ หลังทำคีโม ปลูกผมถาวรได้มั้ย?คำตอบคือ สามารถทำได้ครับ แต่ในที่นี้ ต้องทำการรักษาให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่างน้อย 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อให้ร่างกาย ได้ทำการซ่อมแซมตัวเองในเบื้องต้น เพราะอย่างที่บอกไป ว่าผลกระทบจากการทำคีโมนั้น เป็นอาการชั่วคราว เราจึงควรเว้นระยะ เพื่อรอดูผลลัพธ์หลังการรักษาก่อนนั่นเอง แต่ถ้าหลักการรักษา เส้นผมไม่กลับมาขึ้นเหมือนเดิม หรืออาจมีอาการผมล้านเป็นหย่อมๆ ก็สามารถเข้าพบแพทย์ที่รักษามะเร็ง เพื่อรับคำวินิจฉัยว่า สามารถทำการปลูกผมถาวรได้มั้ย ซึ่งถ้าทำได้ […]
รู้หรือไม่ ราคาปลูกผม ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

ทำไมปลูกผมถึงราคาแพง!! การปลูกผมถือเป็นศิลปะงานฝีมือทางการแพทย์อย่างนึง ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ ไม่ว่าจะป็นรายละเอียดเรื่องการวาง Hairline การกำหนดทิศทางของรากผมที่ต้องอิงหลักธรรมชาติให้มากที่สุด และที่สำคัญคือเทคนิคการย้ายรากผมเพื่อนำมาปลูกยังบริเวณใหม่ ให้อัตราการรอดสูงสุด สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความชำนาญและการสะสมประสบการณ์ทั้งสิ้น การปลูกผมนั้นต่างจากศัลยกรรมอย่างอื่น ที่ใช้เวลาสั้นเพียง1-2ชั่วโมง แต่ปลูกผมต้องอาศัยผู้ช่วยหลายคนประมาณ 4-6 คน และใช้เวลาทำนานราวๆ 6-10 ชั่วโมงขึ้นกับความยากง่ายของเคส อุปกรณ์ในการย้ายรากผม, อุปกรณ์ที่ใช้ปลูก, เทคนิคในการจับรากผม, น้ำยาแช่กราฟ, หรือแม้กระทั่งการเก็บรักษากราฟในอุณหภูมิที่คงที่ตลอดเวลา ก็ล้วนมีผลต่อการขึ้นของกราฟทั้งสิ้น เป็นสาเหตุที่ว่าแต่ละคลินิกปลูกผมเหมือนกันแต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เหมือนกันนั่นเอง การปลูกผมทำได้เพียงไม่กี่ครั้งในชีวิต ในบางรายผมด้านหลังเหลือน้อยก็อาจทำได้แค่ 1 ครั้งเท่านั้น เพราะทรัพยากรของผมด้านหลังนั้นมีจำกัด ผมด้านหลังที่ย้ายมาอยู่ข้างหน้าจะไม่งอกอีกแล้ว แปลว่าถ้าย้ายมาแล้วกราฟไม่รอด เราจะสูญเสียรากผมนั้นไปตลอด ดังนั้นการจะปลูกผมคนไข้จึงต้องตัดสินใจให้ดี เลือกสไตล์การออกแบบแนวผมของคลินิกที่คนไข้ชอบ เพราะแนวผมนี้จะอยู่กับคนไข้ไปตลอดชีวิต และที่สำคัญการปลูกผมไม่ใช่การจบปัญหาผมบางศีรษะล้านจากกรรรมพันธุ์ ปลูกผมเป็นเพียงการแก้ปัญหาบริเวณที่ล้านแล้วเท่านั้น คนไข้จึงยังต้องรักษาผมที่เหลืออยู่ไปเรื่อยๆ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่สามารถดูแลปัญหาเส้นผมของคนไข้ได้ในระยะยาวด้วย
Hairline สัดส่วนที่เหมาะสม

เวลาคนไข้มาปรึกษาปลูกผม บางรายมักจะต้องการให้แพทย์ปลูกผมให้แนวผมต่ำที่สุด เพราะคิดว่าไหนๆก็ปลูกแล้ว เอาแนวผมให้ต่ำๆไว้ก่อน เผื่ออนาคตเถิกไปอีก จะได้ทำทีเดียวให้คุ้มไปเลย ซึ่งจริงแล้วเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะเวลาแพทย์กำหนดตำแหน่ง Hair Lline นั้น จะมีหลักการในการออกแบบอยู่ 3 ข้อ